Site icon GameHunt

[Review] Just cause 4 รีวิว เกมระเบิดภูเขา เผากระท่อม แห่งปี

just-cause-4-pc

​รายละเอียดเกม Just Cause 4

  • แนวเกม :  Action-adventure     
  • วันวางจำหน่าย : 4 ธันวาคม 2018
  • โหมดการเล่น : Single-player    
  • แพลตฟอร์ม : PS4, XONE, PC

​คะแนน

​7
​Total
​​8
​เกมเพลย์
​6
​กราฟฟิก
​​7
​ความคุ้มค่า

จุดเด่น


  • ​Action เจ๋งสุด เกมเพลย์มันแบบมีมิติ หลากหลาย และต่อเนื่อง
  • ​แมปกว้าง มากถึงมากที่สุด
  • ​Grappling Hook ภาคนี้ปรับแต่งได้

จุดด้อย


  • ​กราฟฟิกค่อนข้างตกยุค
  • ​งานออกแบบด้านอินเตอร์เฟสไม่ดี
  • ​เนื้อเรื่องไม่เข้มข้น

หากพูดถึงซีรีส์เกม Action-adventure สุดมันส์ ที่มีเกมเพลย์ค่อนข้างผาดโผนโจนทะยาน แมปกว้างใหญ่จนไร้ขอบเขต ศึกระยะประชิดดุเดือด ศึกระยะไกลก็มันไม่แพ้กัน Just cause น่าจะเป็นรายชื่อเกมที่จะเข้ามาในหัวเราเป็นลำดับต้นๆ โดย Just cause เป็นเกมของค่าย Square Enix ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีมนักพัฒนา Avalanche Studios ที่มีผลงานดีๆ อย่าง Mad Max, Rage, The Hunter และอีกหลายๆ ซีรีส์เกมแอคชั่นชื่อดังออกมามากมาย สำหรับ Just cause เองก็เป็นตัวเกมภาคที่ 4 แล้ว โดยเว้นห่างจากภาค 3 ประมาณ 3 ปี และวันนี้ผมก็ขอหยิบ Just cause 4 มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

Just cause 4 เป็นเกมภาคต่อของซีรีส์ Just cause โดยตัวเกมภาคนี้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ด้าน Action ที่หนักหน่วงถึงขั้นระเบิดภูเขา เผากระท่อม ถล่มเมือง ทำลายเครื่องบิน ไว้อย่างสมบูรณ์ และนั่นยังรวมไปถึงจุดเด่นด้านความเป็น Open World ที่ยังคงเป็นแมปกว้างๆ ที่มีความหลากหลายอยู่เช่นเดิม โดยเรื่องราวในภาค 4 นี้จะต่อตรงจากภาค 3 เลย ดังนั้นใครที่เคยเล่นภาค 3 มาก่อน ภาค 4 จึงไม่ควรพลาดแต่อย่างใด

​เนื้อเรื่อง

โดยเรื่องราวในภาค 4 นี้จะเกิดขึ้นในประเทศ Solis ประเทศที่ทางทีมพัฒนาได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศแถบภูมิภาคอเมริกาใต้ โดย Solis เป็นประเทศที่กำลังเกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงอยู่ หนำซ้ำยังเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน เราจะได้รับบทเป็น Rico Rodriguez ตัวเอกคนเดิมประจำซีรีส์ ที่ได้เดินทางมายังประเทศแห่งนี้เพราะทราบข่าวว่าพ่อของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองกำลังทหาร Black Hand ที่อยู่ในประเทศนี้ และนั่นทำให้ Rico ต้องพัวพันกับสงครามความขัดแย้ง องค์กรทหารที่มีเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูง ซึ่งนำโดย Gabriel Morales และตามหาเศษเรื่องราวของพ่อของเขาไปตามภารกิจต่างๆ นั่นเอง

เรียกได้ว่า Just cause 4 เป็นเกมภาคต่อที่มีเรื่องราวต่างๆ ค่อนข้างเบาหวิวไม่ต่างจากภาคก่อนๆ เลย แต่ภาคนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อย ตรงที่คนที่เสพเรื่องราวจากภาคก่อนๆ มา เนื้อเรื่องภาคนี้คงช่วยเติมเต็มเรื่องราวที่อยากรู้เพิ่มเติมได้บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Just cause ก็เป็นซีรีส์ที่ไม่เน้นเนื้อเรื่องอยู่แล้ว เพราะเกมเพลย์หลังของ Just cause คือ “การทำลาย และการสำรวจ !!” โดยตัวเกมจะไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำแต่เควสเนื้อเรื่อง ตัวเกมให้อิสระแก่เราในการทำทุกสิ่งอย่างได้อย่างตามใจ โดยไม่มีอะไรมาล็อคเราเลย ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของเราแค่บุกทำลายฐานที่มั่นของพวก Black Hand เท่านั้น โดยเมื่อเราจัดการฐานที่มันของศัตรูได้ เราก็จะได้โซนเพิ่ม และเมื่อเราได้โซนเพิ่ม ตัวเกมก็จะทำการปลดล็อคอาวุธใหม่ๆ รวมไปถึงการอัพเกรด Grappling hook สลิงสำหรับพาเราทะยานไปยังที่ต่างๆ

​เกมเพลย์

ตัวเกมแบ่งเรื่องราวให้เล่นเป็น 3 บท หรือ 3 ช่วงก็ได้ โดยประกอบไปด้วย Operation Thunderbarge, Operation Windwalker, และ Operation Sandstinger และจะมีบทสรุปอีก 1 ช่วงคือการเข้ายึดหอคอย Operation Illapa โดยแต่ละช่วง หรือจะเรียกว่าแต่ละ Operation จะประจำอยู่ในแต่ละภูมิภาคของตัวเกม ซึ่งแต่ละภูมิภาคจะมีสภาพแวดล้อม รวมไปถึงภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป โดยจุดเด่นของภาคนี้อีกอย่างก็สภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างรุนแรง ทั้งฝนตก ฟ้าผ่า พายุทราย ไปจนถึงพายุทอร์นาโดสุดโหด ที่เพิ่มสีสันให้กับตัวเกมเกมนี้จนเป็นเกมแนว Action ที่น่าจดจำเกมหนึ่งเลยเชียวละ

อย่างที่ผมกล่าวไปช่วงต้นๆ งานหลักของเราคือการบุกทำลายฐานศัตรู เพื่อปลดล็อคอาวุธ และยานพาหนะ รวมไปถึงชุดสวมใส่ดีๆ มากมาย โดยยานพาหนะของเกมเกมนี้ก็มีหลากหลายมากๆ ตั้งแต่บนดิน บนน้ำ ไปจนถึงบนฟ้า มีตั้งแต่รถกิ๊งก๊อก ไปจนถึงเครื่องบินรบสุดโหด และนอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว มันยังเกี่ยวพันไปจนถึงการอัพเกรด Grappling hook ของเราอีกด้วย โดยในเกม Just cause 4 เราจะสามารถใส่ Mod ให้กับ Grappling hook ของเราได้แล้ว โดยจะมีช่องให้เราใส่ Mod ได้ 3 ช่อง และ Mod จะมีทั้งหมด 3 แบบ คือแบบธรรมดาสำหรับยิงเพื่อดูด หรือดึงทั่วๆ ไป แบบที่สองคือแบบที่ปล่อยบอลลูนได้ และแบบที่สามคือแบบที่มีไอพ่น

โดยเราสามารถสร้างคอมโบสิ่งต่างๆ กับ Grappling hook ได้ไม่เกิน 10 เส้น เช่นติดบอลลูน 4 เส้น ติดไอพ่น 2 เส้น เพื่อสร้างยานพาหนะเป็นต้น ทั้งนี้ระบบ Mod ของ Grappling hook นั้นค่อนข้างลึก และหลากหลายมากๆ โดยยิ่งเรามีไอเดียดีๆ มันก็จะยิ่งทำอะไรแปลกๆ ออกมาได้หลายอย่างทีเดียวเลยละครับ

​กราฟฟิก

ด้านกราฟฟิก กราฟฟิกของเกมภาคนี้ค่อนข้างดรอปลงเมื่อเทียบกับความก้าวหน้าด้านกราฟฟิกในตัวเกมภาคก่อนๆ หลายๆ อย่างดูล้าหลัง ทั้ง Texture แสงเงา ความละเอียดของโมเดล น้ำ และอื่นๆ โดยเมื่อเอาตัวเกมภาค 3 มาเทียบ จะเห็นได้ว่ากราฟฟิกในภาคที่ 3 ทำออกมาดีกว่าภาคที่ 4 เสียอีก ซึ่งนั่นอาจเป็นผลจากการใช้เอนจิ้นใหม่อย่าง Apex Engine ที่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบ Dynamic Weather และ Physic รูปแบบใหม่ สำหรับ Grappling hook และวัตถุในเกมเท่านั้น อีกเรื่องที่ไม่ดี ก็คืองานออกแบบอินเตอร์เฟสที่ดรอปลงกว่าเดิมจากภาค 3 ซึ่งทำออกมาได้เข้าใจยากสุดๆ

​สรุป Just Cause 4 รีวิวเกม

ทั้งนี้ด้วยกราฟฟิก และจุดด้อนหลายๆ อย่าง ทำให้ตัวเกมไม่คุ้มกับราคาของตัวเกมซักเท่าไหร่ ซึ่งตัวเกมมีราคาสูงถึง 1,989 บาท เทียบเท่ากับเกม AAA เกมหนึ่ง สำหรับความคิดผมนะ Just Cause 4 เหมาะสำหรับแฟนเกมของซีรีส์นี้ หรือเกมเมอร์ที่ชอบเกมมันส์ๆ ไม่เน้นเนื้อเรื่อง เน้นเล่นบู๊เพลินๆ ไม่ต้องสมจริงมากนัก พูดง่ายๆ คือเล่นเอามันส์แก้เครียดนั่นแหละ โดยรวมแล้วตัวเกมค่อนข้างน่าผิดหวังครับด้วยกราฟฟิกที่แย่ลง แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่แคร์ หรือยอมรับกราฟฟิกระดับนี้ได้ Just cause 4 ถือเป็นเกมที่สนุก เน้นการเล่นที่ดุเดือดเผ็ดมันส์เกมหนึ่งเลยละ

แสดงความคิดเห็น
Exit mobile version